TOP 6: สโมสรใดบ้างที่ขาดทุนในตลาดนักเตะ 10 ตลาดล่าสุด!?
วันนี้เราจะมาดูว่า ในบรรดาทีม BIG 6 ของ พรีเมียร์ลีก สโมสรใดใช้จ่ายหรือเป็นนักขายตัวยงมากที่สุดจาก 10 ตลาดนักเตะหลังสุด พร้อมทรรศนะเล็กน้อยจากผู้เขียนครับ
อันดับที่ 6 แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ขายนักเตะทั้งหมด: +588.77 ล้านยูโร
ซื้อนักเตะทั้งหมด: -754.90 ล้านยูโร
กำไร/ขาดทุนสุทธิ: -166.13 ล้านยูโร
5 อันดับนักเตะที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขายได้ราคาสูงที่สุด ได้แก่ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ 75 ล้านยูโร, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง 56.20 ล้านยูโร, เฟร์ราน ตอร์เรส 55 ล้านยูโร, กาเบรียล เฆซุส 52.20 ล้านยูโร และ เลรอย ซาเน่ 49 ล้านยูโร
5 อันดับนักเตะที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซื้อมาในราคาสูงที่สุด ได้แก่ แจ็ค กรีลิช 117.5 ล้านยูโร, ยอสโก้ กวาร์ดิโอล 90 ล้านยูโร, รูเบน ดิอาส 71.6 ล้านยูโร, โรดรี้ 52.2 ล้านยูโร และ มัทเธอุส นูเนส 62 ล้านยูโร
ทรรศนะ: แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลายเป็นทีมที่มีความสมดุลในด้านการซื้อขายมากที่สุด พวกเขาใช้ไปเพียง 16.61 ล้านยูโร ต่อตลาดนักเตะ พร้อมคว้าแชมป์มาครองแบบ The Final Boss ทำให้เราสามารถลงความเห็นได้เลยว่า นี่คือสโมสรที่ดีที่สุดทั้งในแง่ความสำเร็จและหน้ากระดาษการเงิน หากสังเกตดูดี ๆ พวกเขาสามารถโละนักเตะบนม้านั่งสำรองในราคาที่สูงจนเป็นสถิติเลยล่ะ
คะแนน: 10/10
อันดับที่ 5 ลิเวอร์พูล
ขายนักเตะทั้งหมด: +240.75 ล้านยูโร
ซื้อนักเตะทั้งหมด: -544.10 ล้านยูโร
กำไร/ขาดทุนสุทธิ: -303.35 ล้านยูโร
5 อันดับนักเตะที่ ลิเวอร์พูล ขายได้ราคาสูงที่สุด ได้แก่ ฟาบินโญ่ 46.7 ล้านยูโร, ซาดิโอ มาเน่ 32 ล้านยูโร, เซป ฟาน เดน เบิร์ก 23.6 ล้านยูโร, ฟาบิโอ คาร์วันโญ่ 23.4 ล้านยูโร และ เนโก้ วิลเลี่ยมส์ 20 ล้านยูโร
5 อันดับนักเตะที่ ลิเวอร์พูล ซื้อมาในราคาสูงที่สุด ได้แก่ ดาร์วิน นูนเญซ 85 ล้านยูโร, โดมินิค โซบอสซ์ไล 70 ล้านยูโร, ลุยซ์ ดิอาซ 51 ล้านยูโร, ดิโอโก้ โชต้า 44.7 ล้านยูโร และ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ 42 ล้านยูโร
ทรรศนะ: ลิเวอร์พูล ถือว่าเป็นทีมที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในตลาดนักเตะ ทีมแมงมองของสโมสรถูกยกย่องพอสมควรในเรื่องความแม่นยำ ซื้อใครเข้ามาแล้วไม่ค่อยพลาด แม้แต่คนที่ถูกเรียกว่า “Flop” อย่าง ดาร์วิน นูนเญซ ก็ยังมีสถิติทำประตูได้เป็นกอบเป็นกำ และสร้างมูลค่าทางการตลาดให้สโมสรได้ดีทีเดียว ถึงตรงนี้ขอยกให้เป็นความดีความชอบของทีมบริหารที่วางโครงสร้างมาดีไม่แพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้
คะแนน: 8/10
อันดับที่ 4 ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ส
ขายนักเตะทั้งหมด: +291.67 ล้านยูโร
ซื้อนักเตะทั้งหมด: -841.75 ล้านยูโร
กำไร/ขาดทุนสุทธิ: -550.08 ล้านยูโร
5 อันดับนักเตะที่ สเปอร์ส ขายได้ราคาสูงที่สุด ได้แก่ แฮร์รี่ เคน 95 ล้านยูโร, สตีเว่น เบิร์กไวจ์น 31.25 ล้านยูโร, คริสเตียน เอริคเซ่น 27 ล้านยูโร, โอลิเวอร์ สคิปป์ 23.5 ล้านยูโร และ เอเมอร์สัน รอยัล 15 ล้านยูโร
5 อันดับนักเตะที่ สเปอร์ส ซื้อมาในราคาสูงที่สุด ได้แก่ โดมินิค โซลันกี้ 64.3 ล้านยูโร, ริชาร์ลิซอน 58 ล้านยูโร, แบรนแนน จอห์นสัน 55 ล้านยูโร, คริสเตียน โรเมโร่ 52 ล้านยูโร และ เจมส์ แมดดิสัน 46.3 ล้านยูโร
ทรรศนะ: หากจะมีสโมสรใดสักสโมสรที่ผมให้สอบตกแบบไม่ต้องพิจารณามาก คงจะเป็น ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ส ที่ใช้เงินซื้อนักเตะมากที่สุดเป็นรองเพียง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เชลซี และถามว่านักเตะที่ขายออกไปก็ไม่ได้ดูมากพอที่จะจับต้องได้ มีเพียง แฮร์รี่ เคน ที่ถือเป็นระดับท็อปของโลก จึงช่วยประคองงบดุลการเงินให้ได้ไปต่อก็เท่านั้น ผู้เขียนจึงสนใจว่า หลังจากนี้ สเปอร์ส จะมีแผนการณ์อย่างไรเพื่อปรับรูปแบบการรบนอกสนาม และสร้างผลผลิตที่ดีพอจะยกระดับขึ้นมาเทียบชั้นทีมหัวตารางอื่น ๆ
คะแนน: 3/10
อันดับที่ 3 อาร์เซน่อล
ขายนักเตะทั้งหมด: +227.34 ล้านยูโร
ซื้อนักเตะทั้งหมด: -791.80 ล้านยูโร
กำไร/ขาดทุนสุทธิ: -564.46 ล้านยูโร
5 อันดับนักเตะที่ อาร์เซน่อล ขายได้ราคาสูงที่สุด ได้แก่ เอมิล สมิธ โรล 31.8 ล้านยูโร, โฟลาริน บาโลกัน 30 ล้านยูโร, เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ 29.7 ล้านยูโร, โจ วิลล็อค 29.4 ล้านยูโร และ อารอน แรมส์เดล 21.4 ล้านยูโร
5 อันดับนักเตะที่ อาร์เซน่อล ซื้อมาในราคาสูงที่สุด ได้แก่ ดีแคลน ไรซ์ 116.6 ล้านยูโร, ไค ฮาแวตซ์ 75 ล้านยูโร, เบน ไวท์ 58.5 ล้านยูโร, กาเบรียล เฆซุส 52.2 ล้านยูโร และ โธมัส ปาร์เตย์ 50 ล้านยูโร
ทรรศนะ: การใช้จ่ายไปทั้งสิ้น 564.46 ล้านยูโร เพื่อแลกกับการเปลี่ยนแปลง อาร์เซน่อล ที่เปรียบเสมือน “หุ้นหัวตก” ให้กลายเป็น “เหรียญดิจิทัล” พุ่งแรงแซงทุกความดุเดือด แม้ว่าเฉลี่ยออกมาแล้วจะดูใช้เงินมากถึง 56.44 ล้านยูโรต่อตลาดนักเตะ แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าพอสมควร หากนำไปเทียบกับรายได้ลิขสิทธิ์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ตลอด 2 ซีซั่นหลังสุด ประกอบกับการมี Squad Depth ที่มูลค่าสูงสุดเป็นอันดับที่ 3 ของโลก ทำให้ผู้เขียนค่อนข้างประทับใจในจุดนี้
คะแนน: 7/10
อันดับที่ 2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ขายนักเตะทั้งหมด: +237.29 ล้านยูโร
ซื้อนักเตะทั้งหมด: -963.03 ล้านยูโร
กำไร/ขาดทุนสุทธิ: -725.74 ล้านยูโร
5 อันดับนักเตะที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขายได้ราคาสูงที่สุด ได้แก่ สก็อต แม็คโทมิเนย์ 30.5 ล้านยูโร, ดาเนี่ยล เจมส์ 29.1 ล้านยูโร, เมสัน กรีนวู้ด 26 ล้านยูโร, อารอน วาน-บิสซาก้า 17.6 ล้านยูโร และ ดีน เฮนเดอร์สัน 17.5 ล้านยูโร
5 อันดับนักเตะที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซื้อมาในราคาสูงที่สุด ได้แก่ แอนโทนี่ 95 ล้านยูโร, เจดอน ซานโช่ 85 ล้านยูโร, ราสมุส ฮอยลุนด์ 73.9 ล้านยูโร, คาเซมิโร่ 70.65 ล้านยูโร และ บรูโน่ แฟร์นานเดส 65 ล้านยูโร
ทรรศนะ: จะว่าไงดีล่ะ? เอาเป็นว่า ผลงานจนถึงตอนนี้ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อาจเป็นตัวบ่งชี้ถึงความล้มเหลวในการบริหารจัดการทีมก็ว่าได้ เพราะนอกจากพวกเขาจะใช้เงินมากที่สุดเป็นอันดับที่ 2 แล้ว ยังไม่สามารถสร้างรายได้ที่สูงพอเพื่อมารองรับรายจ่ายเหล่านี้ด้วย รวมถึงรูปทรงและระบบการเล่นที่ยังสะเปะสะปะ ไม่ว่าจะเปลี่ยนผู้จัดการทีมชุดใหญ่ต่อกี่คน เราก็ยังไม่สามารถสัมผัสได้ว่า “ตอนนี้พวกเขากำลังมองสโมสรไปในทิศทางไหนกันแน่!?”
คะแนน: 4/10
อันดับที่ 1 เชลซี
ขายนักเตะทั้งหมด: +761.32 ล้านยูโร
ซื้อนักเตะทั้งหมด: -1,700 ล้านยูโร
กำไร/ขาดทุนสุทธิ: -936.74 ล้านยูโร
5 อันดับนักเตะที่ เชลซี ขายได้ราคาสูงที่สุด ได้แก่ ไค ฮาแวตซ์ 75 ล้านยูโร, เมสัน เมาท์ 64.2 ล้านยูโร, เอียน แมตต์เซ่น 44.5 ล้านยูโร, คอเนอร์ กัลลาเกอร์ 42 ล้านยูโร และ แทมมี่ อับราฮัม 41 ล้านยูโร
5 อันดับนักเตะที่ เชลซี ซื้อมาในราคาสูงที่สุด ได้แก่ เอ็นโซ แฟร์นานเดซ 121 ล้านยูโร, มอยส์ ไกเซโด้ 116 ล้านยูโร, โรเมลู ลูกากู 113 ล้านยูโร, เวสลี่ย์ โฟฟาน่า 80.4 ล้านยูโร และ ไค ฮาแวตซ์ 80 ล้านยูโร
ทรรศนะ: ข้อติ 2 ข้อ สำหรับ เชลซี คือ พวกเขาไม่มีโทรฟี่ติดมือเลยตลอด 2 ฤดูกาลหลังสุด และยังดองผู้เล่นชุดใหญ่อีกถึง 44 รายชื่อ ซึ่งในแง่ดีคือ พวกเขามีมูลค่านักเตะดาวรุ่งอยู่ในมือ และมีโอกาสที่จะทำเงินต่อได้ในอนาคต เพราะพวกเขาสถาปนาตัวเองเป็นแหล่งส่งออกชั้นดี จนกลายเป็นที่ 1 ในด้านการขายเรียบร้อยแล้ว ส่วนภาพรวมในสนาม ณ เวลานี้ก็ไม้ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อะไรมาก ก็ขอให้คะแนนแบบกลาง ๆ แล้วกัน
คะแนน: 6/10
จบกันไปแล้วนะครับ สำหรับการประเมินสภาพ BIG 6 ของพรีเมียร์ลีก ในแง่ของการซื้อขายใน 10 ตลาดนักเตะหลังสุด หวังว่าท่านผู้อ่านจะได้อะไรกลับไป ขอให้พระเจ้าอวยพรให้สุขภาพแข็งแรง และฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ ไปได้ครับ
เขียนโดย LS Sport
ข่าวกีฬาคนรุ่นใหม่ 24 ชั่วโมง